|
จากการวิจัยได้ข้อสรุปว่า เมื่อพิจารณาบริเวณที่มีการใช้ภาษาไทยถิ่นกลางและภาษาไทยถิ่นอื่นในประเทศไทย จากแนวแบ่งเขตที่ลากขึ้นจาก แผนที่แนวแบ่งเขตภาษา ทำให้สามารถแบ่งบริเวณที่มีการใช้ภาษาไทยถิ่นกลางและภาษาไทยถิ่นอื่นสามารถสรุปผลในภาพรวมระดับจังหวัดได้ดังนี้คือ บริเวณที่มีการใช้ภาษาไทยถิ่นกลางพบครอบคลุมทั้งหมดของจังหวัดพิจิตร อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี นครนายก ตราด ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สระบุรี และพบในบริเวณส่วนใหญ่ของจังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครราชสีมา กาญจนบุรี จันทบุรี ราชบุรี ฉะเชิงเทรา รวมทั้งบางส่วนของจังหวัดตาก ชุมพร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ ปราจีนบุรี สำหรับบริเวณอื่นๆที่เหลือจัดเป็นบริเวณที่มีการใช้ภาษาไทยถิ่นอื่นในประเทศไทย
หมายเหตุ: แนวแบ่งเขตภาษาในระดับอำเภอได้รายงานผลไว้ในรูปแผนที่และตารางในรายงานการวิจัยเรื่อง “การสร้างแผนที่แนวแบ่งเขตภาษาระหว่างภาษาไทยถิ่นกลางและภาษาไทยถิ่นอื่นด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์” (ศิริวิไล ธีระโรจนารัตน์ 2552)
นอกจากนี้ ผู้วิจัยได้นำผลลัพธ์แนวแบ่งเขตภาษาที่สร้างขึ้นไปเปรียบเทียบกับแนวแบ่งเขตภาษาในงานวิจัยของชลิดา โรจนวัฒนวุฒิ (2533) ซึ่งได้ทำการวิจัยไว้ในหัวข้อเรื่อง “ภูมิศาสตร์คำศัพท์ภาษาไทย 4 ถิ่น: การศึกษาเชิงจำกัด”3 ผลการเปรียบเทียบปรากฏว่าแนวแบ่งของทั้งสองงานวิจัยมีลักษณะที่ใกล้เคียงกันมาก ที่น่าสนใจ คือ บางส่วนของแนวแบ่งเขตของงานวิจัยนี้เคลื่อนเข้าไปในบริเวณที่เป็นรอยต่อของภาษาโดยเฉพาะในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ครอบคลุมส่วนใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา) และภาคใต้ การเคลื่อนตัวของภาษาดังกล่าวเป็นไปได้มากที่จะเกิดจากการศึกษาในช่วงเวลาที่ต่างกันจึงทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของภาษาในช่วงประมาณ 15 ปีที่ผ่านมา4
การเปรียบเทียบภาพ (ซ้าย) แสดงแผนที่เขตภาษาไทยถิ่นและบริเวณรอยต่อของภาษาจากงานวิจัยของชลิดา และ (ขวา) แสดงแผนที่ของชลิดาซ้อนทับกับแนวแบ่งเขตของงานวิจัยนี้ (ที่มา: ดัดแปลงมาจากแผนที่ต้นฉบับของ ชลิดา โรจนวัฒนวุฒิ (2533) ในรายงานวิจัยเรื่อง “ภูมิศาสตร์คำศัพท์ภาษาไทย 4 ถิ่น: การศึกษาเชิงจำกัด” หน้า 144)
--
3 ทั้งนี้งานวิจัยของชลิดา ศึกษาโดยใช้คำศัพท์เป็นเกณฑ์ แสดงแนวแบ่งเขตภาษาจากข้อมูลในระดับอำเภอ และครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศไทยเช่นเดียวกับงานวิจัยนี้ จึงน่าจะสามารถเทียบเคียงกันได้
4 งานวิจัยของชลิดาเก็บข้อมูลในช่วงปีพ.ศ. 2531 – 2532 ในขณะที่ฐานข้อมูลคำศัพท์ของงานวิจัยนี้เก็บข้อมูลในปีพ.ศ. 2545-2546 | 
